มะเร็งปอดคืออะไร
สาเหตุของมะเร็งปอดเกิดจากการเปลี่ยนแปลง (หรือเกิดการกลายพันธุ์) ของเซลล์ปอด ส่วนใหญ่มักเกิดจากการสูดดมสารเคมีที่เป็นอันตราย มะเร็งปอดยังสามารถเกิดขึ้นได้แม้กระทั่งกับผู้ที่ไม่เคยสัมผัสสารพิษมาก่อน เซลล์มะเร็งแตกต่างจากเซลล์ปกติตรงที่มีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติและไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและพัฒนาเป็นก้อนเนื้อซึ่งทำลายเนื้อเยื่อปอดที่แข็งแรงที่อยู่โดยรอบ โดยปกติแล้วระยะแรกอาจไม่แสดงอาการ จนกว่าจะเริ่มเข้าสู่ระยะที่มีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายจนทำให้อวัยวะนั้นไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และเมื่อถึงระยะลุกลามนี้ การรักษามะเร็งปอดจะทำได้ยากขึ้น
ประเด็นสำคัญ
- มะเร็งปอดเป็นโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา
- ถึงแม้ว่าการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปอดมากที่สุด แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอื่นๆ อีก เช่น การสัมผัสก๊าซเรดอนและมลพิษทางอากาศ
- การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปอดในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเพิ่มโอกาสรักษาให้หายขาดได้สูงขึ้นมาก
มะเร็งปอดมีหลายชนิด หากทราบชนิดของมะเร็งที่เป็น ก็สามารถนำมาเป็นข้อมูลในการเลือกวิธีการรักษาต่อไปได้
"คุณภาพอากาศและสุขภาพปอด - ความเสี่ยง" นำเสนอข้อมูลความเสี่ยงในรูปแบบอินโฟกราฟิกโดย ELF
มะเร็งปอดเกิดจากอะไร
มะเร็งปอดเกิดขึ้นได้กับทุกคน สาเหตุของมะเร็งปอดเกิดจากการกลายพันธุ์หรือเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปอด โดยการกลายพันธุ์นี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย (ลำดับ DNA ของยีนเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปอดมักเกิดขึ้นจากการสูดหายใจเอาสารพิษที่เป็นอันตรายเข้าไป แม้ว่าจะสัมผัสสารเหล่านี้เมื่อหลายปีนานมาแล้ว แต่คุณก็ยังมีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปอดได้ ควรปรึกษาแพทย์หากคุณเคยได้รับสารพิษตามที่ระบุไว้ด้านล่าง รวมถึงปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงพร้อมทั้งปกป้องปอดของคุณ
การสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของโรคมะเร็งปอด ซึ่งบุหรี่จัดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดถึง 90% สารเคมีที่อยู่ในควันบุหรี่มีมากมายหลายชนิดที่ทราบกันดีว่าเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด หากคุณยังคงสูบบุหรี่ การเลิกสูบบุหรี่เป็นหนทางเดียวที่ดีที่สุดที่สามารถทำได้เพื่อสุขภาพปอดของคุณ
โดยผู้ที่สูบบุหรี่ไม่ใช่บุคคลกลุ่มเดียวที่ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่ หากคุณเลิกสูบบุหรี่ไปแล้ว คุณจะมีความเสี่ยงต่อโรคลดลงแต่ไม่ได้หายไปทั้งหมด เพราะคุณยังมีโอกาสที่จะเป็นโรคมะเร็งปอดได้ ผู้ไม่สูบบุหรี่เองก็อาจได้รับผลกระทบจากการสูบบุหรี่เช่นกัน การสูดดมควันบุหรี่มือสองก็ทำให้คุณเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอด หรือเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้
ก๊าซเรดอน
ก๊าซเรดอนคือสาเหตุอันดับ 2 ของการป่วยโรคมะเร็งปอด เรดอนเป็นสารกัมมันตรังสีที่เป็นก๊าซ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นซึ่งมีปะปนอยู่ในดินตามธรรมชาติ สามารถซึมผ่านดินเข้าไปในอาคารทางรูรั่วและรอยแตกร้าวเล็กๆ ของอาคาร ในสหรัฐอเมริกาพบว่าบ้าน 1 หลังในทุก 15 หลังจะได้รับก๊าซเรดอน ซึ่งการสัมผัสก๊าซเรดอนร่วมกับการสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดได้อย่างรุนแรงเช่นกัน
สารเคมีอันตราย
การสัมผัสสารเคมีอันตรายบางชนิดนับเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด การทำงานกับวัสดุต่างๆ เช่น แร่ใยหิน ยูเรเนียม สารหนู แคดเมียม โครเมียม นิกเกิล และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมบางชนิดก่อให้เกิดอันตรายอย่างยิ่ง หากคุณคิดว่าอาจสูดดมสารเคมีอันตรายในที่ทำงาน ควรพูดคุยกับนายจ้างและปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางป้องกันตัวเอง
มลพิษจากอนุภาค
มลพิษจากอนุภาคหมายถึงส่วนผสมของมลพิษที่อยู่ในรูปของแข็งหรือของเหลว มีขนาดเล็กมากและลอยตัวอยู่ในอากาศที่เราหายใจเข้าไป หลักฐานแสดงให้เห็นว่ามลพิษจากอนุภาคเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดเช่นเดียวกับที่มาจากควันไอเสีย
ยีน
ปัจจัยทางพันธุกรรมเองก็มีส่วนสำคัญต่อโอกาสในการเกิดมะเร็งปอด หากมีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งปอด คุณก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญคือต้องแจ้งให้แพทย์ทราบหากบุคคลในครอบครัวของคุณเป็นหรือเคยเป็นมะเร็งปอด
จัดทำโดย American Lung Association (สมาคมทรวงอกอเมริกัน)
อาการและการตรวจวินิจฉัย
อาการและการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งปอด
โดยทั่วไป แพทย์สงสัยว่าผู้ป่วยอาจเป็นมะเร็งปอดเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติที่ดูเหมือนก้อนเนื้อจากภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) มะเร็งปอดในระยะแรกเริ่มอาจจะไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาเลย บางครั้งผู้ป่วยอาจไม่มีอาการอะไรเลย การวินิจฉัยโรคมะเร็งปอดเป็นกระบวนการที่ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับการตรวจหามะเร็งปอด แต่ยังต้องทำความเข้าใจว่ามะเร็งแพร่กระจายไปมากน้อยแค่ไหน และการทดสอบตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถช่วยกำหนดแผนการรักษาที่ดีที่สุดของคุณได้
อาการของโรคมะเร็งปอดมีอะไรบ้าง
ผู้ป่วยมะเร็งปอดส่วนใหญ่มักไม่ค่อยแสดงอาการจนกว่าโรคจะลุกลามไปมากแล้ว เนื่องจากมีปลายประสาทในปอดน้อยมาก ก้อนเนื้อจึงสามารถเติบโตได้โดยไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือไม่สบายตัว แต่ในระยะแสดงอาการ ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกัน อาจรวมถึง
- ไอเรื้อรังไม่หายหรือแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป
- เสียงแหบ
- เจ็บหน้าอกต่อเนื่อง
- หายใจถี่หรือหายใจไม่ออก
- การติดเชื้อในปอดบ่อยครั้ง เช่น หลอดลมอักเสบหรือปอดบวม
- ไอเป็นเลือด
อาการบางอย่างของมะเร็งปอดอาจดูไม่เกี่ยวข้องกับปอดหรือการหายใจ แต่อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งปอดได้ เนื่องจากมะเร็งปอดมักไม่แสดงอาการในระยะเริ่มแรก ซึ่งหมายความว่าอาการบางอย่างจะไม่ปรากฏจนกว่ามะเร็งจะลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย อาการเหล่านี้อาจรวมถึง
- น้ำหนักลด
- เบื่ออาหาร
- ปวดศีรษะ
- ปวดกระดูกหรือกระดูกหัก
- ลิ่มเลือดอุดตัน
ควรไปพบแพทย์ทันทีหากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ หากคุณคิดว่ามีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปอด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจคัดกรองโรค
บางคนอาจโชคไม่ดีนักที่ได้รับการวินิจฉัยโรคผิดพลาดเป็นเวลานาน เนื่องจากแสดงอาการคล้ายกับโรคปอดบวม ภูมิแพ้ หรือโรคหวัด หากรู้สึกว่ามีความผิดปกติ ต้องยืนกรานอาการดังกล่าวกับแพทย์ผู้รักษา เพราะคุณรู้จักร่างกายของตัวเองดีที่สุด และการยืนกรานอาการสามารถช่วยชีวิตของคุณได้
การสร้างความตระหนักรู้
มะเร็งปอดเป็นหนึ่งในโรคมะเร็งหนึ่งที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปเยอะที่สุด รวมถึงเป็นโรคที่พบมากที่สุดในโลกอีกโรคหนึ่ง เดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งปอดมีขึ้นเป็นประจำทุกเดือนพฤศจิกายน เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปอด ภาวะเสี่ยง การป้องกัน การตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มต้น และการรักษา ในช่วงเดือนนี้ องค์กรต่างๆ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและบุคคลทั่วไปต่างร่วมใจกันสร้างเสริมความตระหนักรู้และให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปอด
ในฐานะซัพพลายเออร์โซลูชันด้านอากาศบริสุทธิ์ในที่ทำงาน Plymovent ได้ร่วมสนับสนุนโครงการริเริ่มดังกล่าวนี้ โดยการร่วมแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับโรคมะเร็งปอด รวมถึงร่วมบริจาคเงินสมทบเป็นประจำทุกปีให้แก่ American Lung Association (สมาคมทรวงอกอเมริกัน) และ European Lung Foundation (มูลนิธิทรวงอกในยุโรป)